วันที่ 11 กันยา

วันนี้อาจารย์ก็สอนตามปกติแต่กว่าจะสอนก็ เที่ยงและ
เพราะมัวออกนอกเรื่องกันอยู่นานเลยที่เดียว
ยังไงตอนนี้ก็ใกล้สอบแล้วเม่กี่อาทิตย์เอง
ผมเลยตั้งใจเรียนเป็นพิเศษเลยครับ
เรื่องที่อาจารย์สอนในวันนี้นะครับก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับ
โครงสร้างองค์กรของบริษัทข้ามชาติ
โครงสร้างองค์กรนั้นก็สะท้อนให้เห็นถึง
เป้าหมายในการดำเนินงานของบริษัท
ในวันนี้ทเรียทำให้ผมได้รู้ว่าการจัดการองค์กรนั้นมีความสำคัญมาก
เพราะการจัดการองค์นั้นมีส่วนถึงความเจริญก้าวหน้าขององค์
หรืออาจจะหมายถึงความล้มเหลวขององค์กรด้วย
โดยโครงสร้างขององค์กรก็มีหลายแบบด้วยกัน
แต่ที่อาจารย์เน้นหนักที่สุดคงจะเป็นเรื่อง
Matrix Structure ซึ่งเป็นการจัดการองค์กรที่ด้รับความนิยมที่สุด
สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ ที่มีผฃิตภัณฑ์หลายชนิด
แต่จมีการใช้กิจกรรมต่างๆร่วมกัน และบริษัทจะมีความเป็นสากลมาก
มีสินค้าวางจำหน่ายในหลายประเทศ
อ้อ แล้ววันนี้ทำให้ผมได้รู้ด้วยว่า KodaK เป็นของประเทศ อเมริกา
หลงคิดว่าเป็นญี่ปุ่นอยู่ตั้งนานแหละครับ

วันที่ 4 กันยา

ในวันศุกร์ที่ผ่านมาอาจารย์ทำการสอนตามปกติ

ในวันนี้้ผมเข้าเรียนสายไปหน่อยแต่ก้อตามเนื้้อเรื่องทันนะคับ

เพราะว่าช่วงต้นชั่วโมงอาจารย์ได้พูดเกี่ยวกับรายงานที่ได้สั่งให้ทำ

โดยอาจารย์ก็ให้แต่ละกลุ่มกลับมาแก้ไขใหม่เพราะยังไม่โอเคเท่าไหร่

สำหรับเนื้อหาวิชาในวันนี้อาจารย์สอนเรื่องกลยุทธ์ในการบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ

ซึ่งก็มีอยูด้วยกัน 3 ระดับ คือ 

1.กลยุทธ์ระดับบริษัท 

2.กลยุทธ์ระดับธุรกิจ

3. กลยุทธ์ระดับหน้าที่ ซึ่งก็มีทั้งหน้าที่ทางการเงิน การผลิต การตลาด

 นอนกจากนี้อาจารย์ยังได้สอนเรื่องของ

ชาร์ตสรุปกลยุทธ์ระดับธุรกิจข้ามชาติซึ่งมีลักษณะดังนี้

Global : กลยุทธ์ระดับโลก โลกทั่วโลกมีความต้องการเหมือนกัน

ตลาดเดียวกันการผลิตต้องยืดนโยบาย ของบริษัทแม่เป็นหลัก

 ด้วยมาตรฐานเดียวกันทั่วโลกเช่น Nokia, Ipod 

Transnational : กลยุทธ์ข้ามชาติแลกเปลียนประสบการณ์กันระหว่าง

บริษัท แม่ กับบริษัท ในท้องถิ่น และประเทศที่ 3 ลงทุนในประเทศที่ทีมีค่าแรงต่ำ

 แต่ใช้ Brand เดิมที่มีชื่อเสียงในระดับโลกเช่น เนสท์เล่, Shell, Unilever

International : กลยุทธ์ระหว่างประเทศเน้นทรัพยากรที่มีภายในประเทศ

ผลิตได้ และส่งออกไปขาย และควบคุมดูแลโดยบริษัท แม่

Multinational : กลยุทธ์นานาชาติปรับตัวตามท้องถิ่น

ของใครของมันไม่ขึ้นกับใคร เช่น โรงพยาบาล, ประกันภัย,

จะเห็นได้ว่าแต่ละแบบมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป

นอกจากนี้อาจารย์ยังได้พูดถึงเรื่องวิธีการส่งออก

Mode of Entry ซึ่งก้อมีอยู่หลายวิธีด้วยกันคือ

1. Exporting (การส่งออก) 

2. Licensing (การขายสิทธิบัตรในการผลิต) 

3. Franchising (การขายสิทธิในการจัดการ/การจัดจำหน่าย)

4. Joint venture (การร่วมลงทุนตั้งกิจการใหม่)

5. Wholly owned subsidiaries (การจัดตั้งสำนักงานสาขา)

พอเรียนเสร็จแล้วอาจารย์ก็สั่งให้ทำงานส่งท้ายคาบด้วย

เท่านั้นยังไม่พออาจารย์ได้บอกคะแนนกลางภาคด้วย

ผมช็อคไปเลยอ่ะเพราะได้คะแนนน้อยมาก

ประมาณ 11.323 แอบเซงเล็กน้อยเพราะน้อยกว่าคนอื่นเค้า

แต่ยังไงอาจารย์ก็เมตตาผมด้วยนะคับ 

IB edutainment

เมื่อวันสุกเสาที่ผ่านมา เปนงาน ib edutainment

งานนี้เหนื่อยมากกทามเอาแทบไม่ได้นอนกานเรยทีเดียวแต่ก้ได้มารางวัลนึงนะถือว่าคุ้มค่าา ^^

หายเหนื่อยเรยยย...จัดบูธด้วยได้สปอนเซอรเปนโออิชิมาหละะ แต่รุ้สึกเหมือนจาไม่ได้อารัยเรยย-*-

ฮ่าๆเหนกุ่มอื่นมีของกินด้วยงานนี้ฟรีไปอิ่มเรยย~~~ ประโยชที่ได้จากงานนี้ก้โอนะแบบได้รุ้ถึงประเทสต่างๆ

โดยคร่าวๆ โดยเฉพาะสวิตเพราะเปนกุ่มตัวเองงงง ฮ่าาา ไปดีกว่าง่วงนอนแระพุ่งนัี้มีเรียนไว้จามาอัพใหม่เด้อ~

gd* nize ฝันดี บายๆจุฟๆ

Open House

เปนวีคของงาน open house ของมหาลัยหละเรยไม่ได้เรียน พราะไปช่วยเพื่อนๆคุมบูธ

ตามล่าเพชรกานมันเรยยจาเก็บทุกดวงแระต่อไปนี้ อิอิ ไปที่งานเจอเดก นร เพียบเรยย

ตกเย็นมีคอนเสิตด้วยทั้ง 3 วันเรยมันส์มากก55+ รุ้สึกสนุกดีนะงานนี้้้เพชรเยอะดีถือว่าเปนงานที่คุ้มค่า อิอิ

ไปดูงาน

วันนี้จำเป็นต้องไปดูงานที่มาม่า ต้องตื่นเช้าเรยยตั้งแต่ตี 4
ก้สนุกดีนะ ชอบที่เค้าบรรยายสนุกดี แระก้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารริมหาด
ได้บรรยากาศ ชิวดี แระก้ไปทามบุนไหว้พระที่วัดต่อ ทามแระก้สบายใจดี
สรุปวันนี้ก้สนุกดีเพราะไม่ได้เรียน มั่ยชั่ยแระ-*- แต่เพราะว่าได้รุ้เกี่ยวกับ
การผลิตของมาม่า แระยังได้มาม่ากลับบ้านอีก 4 ห่อ ฮ่าๆ

Five Force

ไดมอน โมเดลเรียกอีกอย่างว่า Five Forces ของ ไมเคิล พอร์เตอร์
นิยมใช้ในการวิเคราะห์การตลาด มีทั้งหมด 5 ประการ

1. การแข่งขันและผู้แข่งขัน
2. ผู้แข่งขันรายใหม่
3. อำนาจต่อรองของผู้ซื้อ
4. อำนาจต่อรองของผู้จัดส่งวัตถุดิบ
5. สินค้าทดแทน

การวิเคราะห์ธุรกิจโดยนำหลัก Five Force มาใช้นั้น
ควรใช้สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีการแข่งขันสูง

ทฤษฏีการค้าระหว่างประเทศ

การค้าระหว่างประเทศเกิดขึ้นได้เนื่องจากการที่แต่ละประเทศมีทรัพยาการที่แตกต่างกัน
ทั้งในด้านทรัพยากรแรงงาน ทรัพยากรธรรมชาติที้งที่ใช้แล้วหมดไป และที่สามารถเกิดขึ้นใหม่ได้อีก
เช่น แหล่งทรัพยากรทางด้านเชื้อเพลิงที่นำมากลั่นเป็นน้ำมันซึ่งมีมากในภูมิภาคตะวันออกลาง


การที่แต่ละประเทศมีประเภทและปริมาณของทรัพยากรที่แตกต่างกัน ก่อให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ
ในการผลิตสินค้าและบริการที่แตกต่างกัน ประเทศที่มีทรัพยากรที่สามารถผลิตสินค้าได้ในต้นทุนต่ำกว่าประเทศอื่น ๆ ย่อมสามารถส่งสินค้าออกไปยังต่างประเทศที่มีต้นทุนในการผลิตที่สูงกว่า ซึ่งประเทศผู้นำเข้าสินค้าจะได้รับประโยชน์จากการบริโภคสินค้าที่มีต้นทุนต่ำเช่นกัน

มูลเหตุที่ทำให้เกิดการค้าระหว่างประเทศมาจากความแตกต่างของราคาสินค้าเชิงเปรียบเทียบ
ระหว่างสินค้าภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเรียกว่า ความได้เปรียบสมบูรณ์